Government

#บิ๊กต่อ หลุดคดี เพราะคนใน ป.ป.ช.

มีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. สามคน คือ นาย น (ชื่อเล่น ก้อย) ตำแหน่งเจ้าพนักงานตรวจสอบทรัพย์สิน ชำนาญการพิเศษ และ นาย สัจ (ชื่อเล่น ชาย) ตำแหน่งเจ้าพนักงานตรวจสอบทรัพย์สิน ชำนาญการ และ น.ส. ว (ชื่อเล่น เมย์) ทั้งสามคนสังกัด สำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ๓. ได้ร่วมกันให้ความช่วยเหลือ ผู้ถูกกล่าว และรับงานกลั่นแกล้ง คู่ขัดแย้งของบุคคลที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ทั้งสามให้ความช่วยเหลือให้พ้นข้อกล่าวหา คือ

ในสำนวนคดีแจ้งข้อกล่าวหา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์  สุขวิมล กรณีปกปิด แจ้งเท็จเกี่ยวกับทรัพย์คือ บ้านที่ประเทศอังกฤษ โดยในครั้งแรก แจ้งว่า เป็นเงินกู้ยืม ยี่สิบล้านบาท สามปีถัดมาต้องยื่นบัญชีต่อ ป.ป.ช. ได้ยื่นเป็น บ้านที่ประเทศอังกฤษ แทนเงินกู้ยืม ซึ่งตามหลักฐานการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์บ้านที่ประเทศอังกฤษ ได้มาตั้งแต่เริ่มยื่นบัญชีครั้งแรก จึงเป็นเหตุให้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า ปกปิดแจ้งเท็จ เรื่องบ้านที่อังกฤษ และให้ตรวจสอบทุกบัญชี ถึงที่มาของเงิน ที่เอาไปซื้อบ้าน ว่ามาจากแหล่งใด มีบัญชีอื่น ที่ผิดปกติอีกหรือไม่

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ อ้างพยาน เพื่อแก้ข้อกล่าวหา คือ นาย น. ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สิน ป.ป.ช.

นาย น. มาให้การว่า ตัวเองเป็นคนตรวจบัญชี ของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ในครั้งแรก ที่ยื่นบัญชีมาว่า มีเงินกู้ยืม และต่อมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้ขอแก้ไข เป็นบ้านที่อังกฤษ แต่ นาย น. แนะนำว่า ให้ยื่นแก้ไขมา ในคราวที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์ในครั้งหน้า คือ อีกสามปีต่อมา

คำให้การของ นาย น. “เท่ากับยอมรับว่า ตัวเอง เป็นผู้แนะนำให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปกปิดแจ้งเท็จ เกี่ยวกับบ้านที่อังกฤษ โดยจุดประสงค์ ให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ พ้นผิด เพราะได้รับคำแนะนำให้ ยื่นบัญชีปกแจ้งเท็จ จากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.”

คำแนะนำของ นาย น. ไม่มีบันทึกไว้ในสำนวน ทั้งไม่มีเอกสารการขอแก้ไขบัญชี ของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปรากฏในสำนวนแต่อย่างใด

คำแนะนำของ นาย น. เป็นคำแนะนำที่ผิดระเบียบการตรวจสอบทรัพย์สิน และเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ที่มีหน้าที่ตรวจสอบบัญชีของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์

แล้วแบบนี้ จะหาความยุติธรรมได้จากที่ไหนกันอีก
ถ้าคนข้างในเป็นหนอนซะเองรับงานช่วยเหลือผู้ถูกกล่าวหาให้พ้นผิด

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา นาย น. ได้ร่วมกับ นาย สัจ  และ น.ส. ว  ทั้งสามคนได้ร่วมกัน แบ่งงานกันทำ เพื่อเจตนาส่อไปในทางทุจริต ต้องการให้เกิดความเสียหาย กับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล โดย

นาย น. ได้ไปขอสำนวนการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล จาก น.ส.มยุเรศ เศวตมาลย์  ผอ. สำนักงานตรวจสอบทรัพย์สินภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ๓. มาเพื่อให้ตัวเอง และพวกเป็นเจ้าของเรื่อง เพื่อทำการตรวจสอบซึ่งเป็นการผิดระเบียบ ผิดวิสัย การทำงานของสำนักตรวจสอบทรัพย์สิน เมื่อตัว นาย น. ไปให้การช่วยเหลือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งกับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ แล้วไปขอบัญชีของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ มาตรวจ คิดเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากต้องการกลั่นแกล้ง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์  คู่ขัดแย้งของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์

เรื่องดังกล่าว ได้ทราบไปถึง รองเลขาธิการฯ ป.ป.ช. จึงได้สั่งการให้ ผอ. สำนักงานตรวจสอบทรัพย์สินภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ๓. เรียกบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ คืนมาจาก นาย น. ถ้า นาย น. เป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ประเภท ตรงไปตรงมา ท่านรองฯ คงไม่เรียกสำนวนคืนมา ประวัติ นาย น. เป็นที่ทราบกันในสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นคนมีหนี้สิน ยืมเงินสหกรณ์ ก็ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ชอบรับงานจาก ผู้ถูกกล่าวหาฯ ย้ายไปอยู่สำนักไหน ก็ไม่มีใครเอา ไม่ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เพื่อนในรุ่นเดียวกัน เป็นถึง ผู้ช่วยเลขาฯ อย่างต่ำก็เป็น ผอ.จังหวัด แต่ตัวเองยังจมอยู่กับที่

ที่สำนักงาน ป.ป.ช. มีเจ้าหน้าที่สามคน คือ นาย น นาย สัจ และ น.ส. ว ตำแหน่ง เจ้าพนักงานตรวจสอบทรัพย์สิน ทั้งสามคนได้ร่วมกันให้ความช่วยเหลือ ในคดีที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ถูกกล่าวหาว่า ปกปิดแจ้งเท็จ กรณี มีบ้านพักที่ประเทศอังกฤษ โดย นาย น ไปให้การกับ ป.ป.ช. ว่า ตัวเองเป็นคนแนะนำให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยื่นบัญชี อันเป็นเท็จต่อสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ พ้นผิด เนื่องจากทำตามคำแนะนำของ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.

“สำนักงาน ป.ป.ช. เขาตรวจสอบกันแบบนี้เองนะ เล่นกันง่ายๆ ทำเอง ผิดเอง ผิดที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เอง คนยื่นบัญชีเท็จไม่ผิด คิดได้ยังไง”

เรื่องยังไม่จบเพียงให้ความช่วยเหลือผู้ถูกกล่าว แต่นาย น. กับพวก ยังมีพฤติการณ์ ที่จะกลั่นแกล้ง คู่ขัดแย้งของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ อีก โดย นาย น. ได้ไปขอบัญชีแสดงทรัพย์สิน และหนี้สิน ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่ยื่นไว้กับ สำนักงาน ป.ป.ช. จาก ผอ. สำนักตรวจสอบทรัพย์สิน มาให้ตัวเองกับพวก เป็นเจ้าของเพื่อตรวจสอบ เมื่อนาย น. ได้ให้การช่วยเหลือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งกับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ แล้วไปขอบัญชีของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ มาตรวจเอง จึงคิดเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากต้องการกลั่นแกล้ง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์

“เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เขาแบ่งค่ายกันแล้ว ไปช่วยเหลือผู้ถูกกล่าวหา และไปกลั่นแกล้ง คู่ขัดแย้ง ของคนที่ตัวเองไปให้ความช่วยเหลือ แบบนี้ จะเชื่อคำให้การของ นาย น. ได้อย่างไร เพราะแสดงจุดยืนชัดเจนว่าอยู่ฝ่ายใด”

เรื่องขอ สำนวนของ นาย น. ทราบไปถึง รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ท่านจึงได้สั่งการให้ ผอ. เรียกเรื่องคืนจาก นาย น. คงไม่ต้องการให้มีการเลือกข้าง และกลั่นแกล้ง ผู้ยื่นบัญชี โดยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ที่ไปรับงานจากบุคคลภายนอก

“ใน ป.ป.ช. มีเจ้าหน้าที่น้ำดีอยู่ และควรขจัด เจ้าหน้าที่ น้ำเน่า ออกไป อย่าให้ ปลาเน่าตัวเดียว ทำให้เน่าทั้งเข่ง”

Comment here